วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

8.ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information Processing Theory)


ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information Processing Theory)

สยุมพร ศรีมุงคุณ  (https://www.gotoknow.org/posts/341272) ได้รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลไว้ดังนี้ เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง  ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์   หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้  คือ  การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น  จัดสิ่งเร้าในการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน  สอนให้ฝึกการจำโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย  หากต้องการให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใดๆ  ได้เป็นเวลานาน  สาระนั้นจะต้องได้รับการเข้ารหัส(encoding)  เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว  วิธีการเข้ารหัสสามารถทำได้หลายวิธี  เช่น  การท่องจำซ้ำๆ  การทบทวน  หรือการใช้กระบวนการขยายความคิด

ทิศนา แขมมณี  (2554 : 80 – 84) ได้รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลไว้ดังนี้ ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล เป็นทฤษฎีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฎีนี้เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี ค.. 1950 จวบจนปัจจุบัน คลอสเมียร์ ( Klausmeier , 1985 : 52 – 108 ) ได้อธิบายการเรียนรู้ของมนุษย์โดยเปรียบเทียบการทำงานของคอมพิวเตอร์กับการทำงานของสมอง ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
                1.การรับข้อมูล (input ) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
  2.การเข้ารหัส ( encoding ) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
  3.การส่งข้อมูลออก ( output ) โดยผ่านทางอุปกรณ์
คลอสเมียร์ ( Klausmeier , 1985 : 105 ) อธิบายกระบวนการประมวลข้อมูลโดยเริ่มต้นจากการที่มนุษย์รับสิ่งเร้าเข้ามาทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 สิ่งเร้าที่เข้ามาจะได้รับการบันทึกไว้ในความจำระยะสั้น ซึ่งการบันทึกนี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ประการคือ การรู้จัก ( recognition ) และความใส่ใจ ( attention ) ของบุคคลที่รับสิ่งเร้า ซึ่งจะดำรงอยู่ในระยะเวลาที่จำกัดมาก ในการทำงานที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้ชั่วคราว อาจจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการจำช่วย เช่น การจัดกลุ่มคำ หรือการท่องซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยให้จดจำสิ่งนั้นไว้ใช้งานได้ การเก็บข้อมูลไว้ใช้ในภายหลัง สามารถทำได้โดยข้อมูลนั้นจำเป็นต้องได้รับการประมวลและเปลี่ยนรูปโดยการเข้ารหัส ( encoding ) เพื่อนำไปเก็บไว้ในความจำระยะยาว ( long term memory ) ซึ่งอาจต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น การท่องซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หรือการทำข้อมูลให้มีความหมายกับตนเอง ความจำระยะยาวนี้มี 2 ชนิด คือ ความจำที่เกี่ยวกับภาษา ( semantic ) และความจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ ( episodic ) นอกจากนั้นยังอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ความจำประเภทกลไกที่เคลื่อนไหว ( motoric memory ) หรือความจำประเภทอารมณ์ ความรู้สึก ( affective memory )
                กระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลจะได้รับการบริหารควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คือโปรแกรมสั่งงานหรือ “ software ” นั่นเอง
                ดังนั้น ความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นหรือการรู้คิด  ( metacognitive knowledge ) จึงมักประกอบไปด้วยความรู้เกี่ยวกับบุคคล ( person ) งาน ( task ) และกลวิธี ( strategy )
                ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แพริสและคณะ ( Paris et al., 1983 : 293 – 316 ) ได้จำแนกความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นออกเป็น 3 ประเภท เช่นเดียวกัน ได้แก่
1. ความรู้ในเชิงปัจจัย ( declarative knowledge )
2. ความรูเชิงกระบวนการ ( procedural knowledge )
3.ความรู้เชิงเงื่อนไข ( conditional knowledge )

เลิศชาย  ปานมุข  (http://www.lertchaimaster.com/forum/index.php?topic=36.0) ได้รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลไว้ดังนี้ เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง  ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์  

สรุปทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มมนุษยนิยม (Humanism)
          เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง  ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
              1.การรับข้อมูล (input ) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
2.การเข้ารหัส ( encoding ) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
3.การส่งข้อมูลออก ( output ) โดยผ่านทางอุปกรณ์
               หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้  คือ  การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น  จัดสิ่งเร้าในการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน สอนให้ฝึกการจำโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย  หากต้องการให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใดๆ  ได้เป็นเวลานาน  สาระนั้นจะต้องได้รับการเข้ารหัส(encoding)  เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว  

ที่มา
สยุมพร ศรีมุงคุณ.(2553). https://www.gotoknow.org/posts/341272.
{ Online } เข้าถึงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561.
ทิศนา แขมมณี.(2554).ศาสตร์การสอน:องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.
กรุงเทพ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
              เลิศชาย  ปานมุข.(2558). http://www.lertchaimaster.com/forum/index.php?topic=36.0.
{ Online } เข้าถึงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561.





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

16.สื่อการสอนคณิตศาสตร์

สื่อการสอนคณิตศาสตร์ กุลนันท์ กลิ่นสุวรรณ   ( http://gullanun302.blogspot.com/2015/12/blog-post.html )ได้รวบรวมและกล่าวถึงสื่อการสอนไ...